วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

[G-dragon]บทสัมภาษณ์จาก NYLON...อ่านแล้วจะรักควอนมากยิ่งขึ้น






THE INTERVIEW

Q: เมื่อเราย้อนกลับไปดูรูปที่ผ่านมาของคุณ เรามองเห็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญคนหนึ่ง เมื่อคุณมองรูปพวกนี้แล้วคุณคิดว่านั่นเหมือนกับตัวคุณมั้ย?
GD: คุณเคยพยายามที่จะไม่เป็นตัวของตัวเองหรือเปล่า มันไม่ใช่ว่าผมพยายามจะไม่ทำให้มันดูเหมือนตัวผมเอง แต่ผมพยายามที่จะใช้เวลาในการอยู่ในกระแสและแสดงถึงด้านต่างๆของผม ดูโกรธและยิ้มแย้มในเวลาเดียวกัน ผมคิดว่าการถ่ายรูปก็เหมือนกับการเล่น ผมแค่ทำให้มันดี

Q: คุณโพสท่าแบบไม่มีเหตุผล และก็ยังทำผมทรงดราก้อนบอลด้วย
GD: ครับ ผมพยายามที่จะปล่อยตัวเองไปตามสบายระหว่างถ่ายรูปแค่นั้นเอง

Q: ฉันกำลังสงสัยเกี่ยวกับชุดที่คุณใส่อยู่ตอนนี้
GD: หมวกสีดำนี้เป็นของ Chip Monday ฮะ ส่วนเข็มกลัดสีแดงบนหมวกนั้นผมซื้อมาจากญี่ปุ่น ผมได้มันมาจากร้านเพื่อนของเพื่อนผมเมื่อตอนผมไปลอนดอนกับซึงโฮ (สไตลิสของ2NE1) และจีอึนนูน่า(สไตลิสของบิ้กแบง) เสื้อกล้ามตัวนี้มาจาก Ann Demeulemeester มันค่อนข้างเก่าเลยทีเดียว นี่เป็นชิ้นที่แพงที่สุดที่ผมซื้อเมื่อตอนบิ้กแบงเดบิวต์ กางเกงสีเหลืองตัวนี้ผมเห็นมันครั้งแรกที่ร้าน John Galliano ในลอนดอนและซื้อมันทันทีเลยฮะ รองเท้าคู่นี้เป็นของ Vans ช่วงนี้ผมชอบรองเท้าสไตล์วินเทจมากก็เลยใส่มันบ่อยน่ะฮะ

Q: ควอนจียงนั้นใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่ดูแปลกจากทั่วไปในโซลมากกว่าที่จะใส่เสื้อผ้าสบายๆ?
GD: ผมใส่เสื้อไซส์เล็กและใส่ชุดที่แปลกจากคนอื่นมาก ฮ่าฮ่า เช่นเดียวกับชีวิตในวันธรรมดาทั่วไปและเวลาอยู่บนเวที ผมจะชอบแต่งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าจนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนชุดอีกหลายครั้งก่อนจะออกไปข้างนอก ถึงแม้ว่าผมจะไปแค่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็เถอะ (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้มันต้องดูสบายๆหน่อย ตอนนี้แฟชั่นสไตล์ฮิพฮอพกำลังกลับมาฮิตอีกครั้งในวงการแฟชั่น เหมือนกับคอลเลคชั่นของ Givenchy ทุกอย่างจะเป็นขนาดโอเวอร์ไซส์ ผมยินดีกับการกลับมาของเทรนด์นี้

Q: ฉันได้ยินว่าคุณไม่แคร์เกี่ยวกับการใส่เสื้อผ้าไซส์ผู้หญิงถ้ามันดูดี ฉันรู้สึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน คุณไม่คิดเหรอว่าคุณจงใจที่จะทำให้คุณดูเท่และหล่อน่ะ
GD: นั่นเป็นเพราะว่าผมไม่หล่อ ท๊อปฮยองต่างหากที่หล่อ ในบรรดาสมาชิกวงบิ้กแบงของเรานั้นมีลุคที่ดูเป็นมิตรมากกว่าหล่อ สำหรับแดซองนั้น ผมบอกเขาตรงๆเลยว่า "ฉันไม่ใช่คนที่ดูดีที่สุด แต่นายก็ไม่ได้หล่อ" แดซองรู้ว่าเขาไม่ได้ดูดีที่สุด พวกเราไม่แคร์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียว สำหรับแฟชั่นในการถ่ายทำนั้นมีคอนเซ็ปเสมอ; ผมจะทำตามคอนเซ็ปที่สต๊าฟบอก ผมไม่พยายามที่จะทำให้ใบหน้าของผมนั้นออกมาดูดีหรืออะไรก็ตามที่ทำให้รูปมัน เสีย แต่เพราะผมไม่ใช่คนที่ดูดีที่สุด มันเลยไม่ได้ออกมาเป็นแบบนั้น การโอ้อวดว่าดูดีนั้นมันไม่เหมาะกับผม

Q: คุณชอบแบรนด์ไหนมากที่สุดตอนนี้? ถ้าคุณต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์เดียวไปตลอดชีวิตล่ะ?
GD: ตอนนี้ผมชอบ Givenchy ถ้าผมต้องใส่แบรนด์เดียวตอนอยู่บนเวที ผมขอเลือก John Galliano แต่สำหรับชีวิตประจำวันแล้วผมขอเลือก Givenchy ความจริงผมชอบเสื้อผ้าที่ดูคลาสสิคแบบ Givenchy น่ะครับ

Q: คุณมีเสื้อผ้าอยู่เท่าไหร่? แล้วคุณจัดการกับมันยังไง ถ้าเกิดมันหายไปตัวหนึ่ง?
GD: ตอนนี้ผมมีเสื้อผ้าเต็มไปหมดเลย แต่ในอนาคตผมก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะผมก็ยังคงซื้อมันต่อไป (หัวเราะ) ในบ้านของเรา ผมมีห้องสองห้องเอาไว้เก็บเสื้อผ้าโดยเฉพาะ พวกชุดในฤดูหนาวนั้น ผมจะแยกมันออกมาและเอาไปเก็บไว้ที่บ้านพ่อแม่ เพราะตอนนี้มันไม่มีห้องว่างมากนักสำหรับชุดในฤดูร้อนเท่าไหร่ ผมเลยต้องเก็บมันไปไว้ที่อื่นก่อน ผมค่อนข้างจัดการได้ดีนะ เช่นเวลาผมทำเพลงหรืออะไรก็ตาม ผมจะไม่มีสมาธิเลยถ้าบางอย่างมันผิดแปลกไป(เปลี่ยนตำแหน่งของเครื่องบันทึก เสียงบนโต๊ะ) นี่ก็กวนใจผมนิดหน่อย มันดูงอด้วย

Q: ฮ่าฮ่า คุณดูแอบประหลายนะเนี่ย
GD: (โชว์ให้เห็นว่าเครื่องบันทึกเสียงมันงอ) ผมค่อนข้างหวาดระแวงนิดหน่อย ถ้ามันเป็นของของคนอื่นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ของของผม มันจะต้องอยู่ในมุมที่ถูกต้อง เพื่อนของผมจะแปลกใจเสมอเวลามาหาผมที่บ้าน

Q: ฉันคิดว่าคุณไม่เคยใส่เสื้อผ้าซ้ำกันเลยซักครั้งเดียวถ้าคุณมีมันมากขนาดนั้น
GD: ถ้าคุณเห็นคอลเลคชั่นล่าสุด คุณจะพบว่ามีหลายคอลเลคชั่นที่แสดงถึงสไตล์แฟชั่นในยุค 80's ผมมิกซ์มันกับชุดเก่าๆ แม่ของผมเป็นคนที่แต่งตัวเก่ง แม่มักจะซื้อเสื้อผ้าให้ผมเยอะแยะ ผมจึงชอบไปห้าง/ศูนย์การค้ากับแม่อยู่เรื่อย นี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงชอบเสื้อผ้ามากขนาดนั้น; แต่ตอนนี้แม่ของผมเสียใจแล้วเพราะผมซื้อมันเยอะเกินไป แม่ของผมเคยตัดเสื้อให้ผมด้วย แม่ตัดเสื้อแจ็คเก้ตของผมและปะกางเกงของผม นอกจากนั้นเรายังไป Peace Market (สถานที่ขายเสื้อผ้า) ด้วยกันอยู่บ่อยๆ ผมซื้อเสื้อผ้าเป็นจำนวนมากจากร้านของคุณยายผมที่ฮวางฮักดง เช่นเสื้อกล้ามตัวนี้ ผมไม่เคยโยนเสื้อผ้าที่ผมซื้อมาทิ้ง ถึงแม้เทรนด์นั้นจะผ่านไปแล้ว แต่ผมสามารถใส่มันและทำให้มันดูดีได้ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับการที่คุณใส่มันอย่างไรต่างหาก

Q: แต่คุณก็พยายามแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ใหม่ที่สุดบนเวที? ฉันได้ยินว่าเวลาคุณไปซื้อเสื้อผ้า คุณจะโทรหาสไตลิส แล้วถามว่า"มันสายเกิดไปไหมที่ผมจะซื้อนี่?"
GD: ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวที่คิดมากกับเรื่องนี้รึเปล่าว แต่สำหรับชุดบนเวทีแล้วผมพยายามจะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่ใหม่ที่สุด และผมไม่ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำกับคนอื่นด้วย ถ้าเสื้อผ้านั้นๆออกมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว นั่นแปลว่าทุกคนต้องเคยใส่มัน ผมจะยายามหามันให้ได้ก่อนคนอื่นน่ะครับ

Q: บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าคุณเป็น style icon ที่ดูวชาญมาก?
GD: มันน่าอายน่ะครับที่บอกว่า 'style icon...' (หัวเราะ) ผมก็แค่ชอบเสื้อผ้า; คำพูดพวกนี้มันออกจะมากเกินไปสำหรับผม

Q: ฉันคิดว่าคุณชอบมันเสียอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นข่าวของฉันคงผิด
GD: เพราะอย่างนั้น ผมเลยคิดอยู่ตลอดเวลาว่า "ผมควรใส่นี่ก่อนหรือเปล่า?"

Q: ตอนที่บิ๊กแบงปรากฏเป็นตัวครั้งแรก ฉันค่อนข้างแปลกใจมากเมื่อเห็นทุกคนแต่งตัวแบบเดียวกัน คุณรู้สึกอย่างไรที่แม้แต่เด็กเล็กๆก็เริ่มแต่งตัวแบบคุณ?
GD: มันเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก แต่ผมก็ยังอายทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า 'Bigbang Style' อย่างเช่น พวกเขาเรียกแว่นที่ท๊อปฮยองใส่ว่า 'แว่นของท๊อป', เรียกทรงผมที่ผมทำว่า 'ทรงจีดราก้อน' ผมงอายเวลาที่ทุกคนพูดแบบนั้น เวลาผมเข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตทีไรก็มีแต่คนเหมือนกับผม ฮ่าฮ่า ความจริงมันไม่ง่ายที่จะใส่เสื้อแบบเดียวกับที่ผมใส่ตอนขึ้นเวทีในชีวิต ประจำวัน มันก็เลยเซอร์ไพรส์มากเวลาเห็นคนอื่นแต่งตัวแบบนั้น แต่มันก็ดีในแง่ที่ว่าผมช่วยในเรื่องของสไตล์ แต่ผมก็ยังไม่ชินกับคำว่า 'Style Icon' อยู่ดี

Q: คุณถูกวิพากย์วิจารย์มากเมื่อคุณใส่เสื้อที่มีคำว่า 'sex' เขียนอยู่ คุณคิดว่าการตอบสนองของชาวเน็ตนั้นมากเกินไปหรือเปล่า?
GD: ผมรอคอยที่จะใส่เสื้อตัวนั้นมานานมาก ผมพยายามหามันอยู่ 2-3 ปี แต่มันก็เป็นไปได้เลยที่จะหาเสื้อแบบนั้นเจอ ตอนงานประกาศผลรางวัล จีอึนนูน่า(สไตลิส)ได้ซื้อมันมาจากร้านขายเสื้อมือสอง ผมดีใจมากและใส่มันทันที เวลาพวกเราใส่อะไรแล้ว พวกเราไม่ค่อยอ่านคำที่มันเขียนอยู่หรอกครับ สาบานได้เลยว่าผมไม่เห็นว่ามันเขียนอะไรอยู่บนเสื้อ แต่ถ้าคุณมองที่รูปบนเสื้อ คุณถึงจะเห็นมัน มันเป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้คิดก่อน และผมก็ต้องขอโทษด้วยถ้ามันทำให้คนดูรู้สึกไม่สบายใจ แต่ถ้าให้พูดจริงๆแล้ว ผมไม่เข้าใจพวกเขาเท่าไหร่

Q: ถ้าคุณมีโอกาสได้แสดงร่วมกับ Lady Gaga ที่แต่งตัวได้น่าช็อคมากกว่าคุณ คุณจะแต่งตัวอย่างไร?
GD:ผมคิดว่าผมจะแต่งตัวอย่างประณีตและทันสมัย ถ้าเราสองคนแต่งตัวแบบนั้นคงดูเหมือนเอเลี่ยน//555

Q: นิตยสารเล่มนี้วางจำหน่ายในวันเดียวกับที่อัลบั้มเดี่ยวของคุณวางแผง คุณบอกว่าคุณอยากทำเพลงที่คุณอยากทำ นั่นคืออะไร?
GD: ในทีวีผมดูค่อนข้างจะ 'มีพลัง' ใช่มั้ยครับ? 'ดูบ้าคลั่ง'? ผมคิดว่านั่นเป็นด้านที่ผมมั่นใจที่สุดเวลาอยู่ในทีวี แต่ในครั้งนี้ผมมาคนเดียว ผมจึงอยากโชว์ด้านที่แตกต่างออกไปของผม มันมีเพลงที่ผมร้องอย่างสงบนิ่งพร้อมกับเล่นกีตาร์ อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ผมเตรียมมาตั้งแต่ตอนที่ผมอายุ 13 ผมเขียนไดอารี่เกี่ยวกับอัลบั้มของผมแต่ยังเด็กด้วย ถ้าคุณฟังเพลงในอัลบั้มของผม คุณจะรู้ว่าผมใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างไรและคิดอย่างไรกับการไม่พูดถึงตัวผม

Q: คุณทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ? คุณเป็นโปรดิวเซอร์ของอัลบั้มเองใช่มั้ย?
GD:ท่านประธานยางฮยอนซอกให้ผมทำทุกอย่าง ตั้งแต่ album design, รูป, คอนเซ็ป, ชุด, ท่าเต้นและรวมถึงดนตรี (ไม่ใช่เขาทำเองทั้งหมด) แต่ผมก็ไม่ได้แต่งเพลงเองทั้งหมด โดยส่วนมากผมจะทำดนตรีกับคนอื่น
Q: คุณพอใจไหม?
GD: ผมไม่มันใจ เพราะ มันยังไม่จบ แต่ผมทำงานหนัก เมื่อเราไปทำกิจกรรมที่ญี่ปุน ผมใช้เวลาในหนึ่งวันโดยบินกลับมาที่เกาหลีในไฟลต์เช้า เพื่อมาทำงานทั้งวัน เสร็จแล้วก็บินกลับญี่ปุ่น ผมไม่ได้ทำแค่อัดเสียง แต่ยังมีการประชุมเรื่องเอ็มวี , ประชุมเรื่องเสื้อผ้า ฯลฯ ผมมีประชุมมากมาย นั่งทำให้ชื่อเล่นของผมตอนี้คือ Kwon bujang (bujang แปลว่า ผู้ัจัดการ)

Q: มันมีบทความเกี่ยวกับการที่คุณมีความกดดันระหว่างเตรียมอัลบั้มเดี่ยว , คุณรู้ใช่ไหม?
GD: ผมไม่ใช่คนประเภทที่ว่าจะอธิบายทุกอย่าง ดังนั้นผมจึงปล่อยมันผ่านไป แต่ผมก็ไม่ใช่คนประเภทที่ว่าจะเก็บมันไว้ในใจ ผมเงียบไปพักนึงเพราะผมต้องการที่จะเตรียมตัวทุกอย่าง บางทีนั่นอาจจะทำให้ผมดูเครียดก็เป็นได้

Q: สำหรับบางคน คุณคือคนที่มีมาก มีความสามารถมาก และได้พบเจอกับผู้คนดีๆมากมาย คุณเกิดในยุคที่คุณสามารุแสดงออกถึงความสามารถของคุณ เพราะอย่างนั้นมันเลยมีข่าวลือด้านลบเกี่ยวกับคุณ ซึ่งมันเป็นเหมือนความกดดัน ข่าวลือพวกนี้เกิดจากความดังของคุณ คุณไม่ชอบมันใช่ไหม?
GD: ก็ไม่เชิงนะครับ พวกเขาจะเชื่อผมเมื่อผมอธิบายทุกสิ่ง ผมหวังว่าในเวลาต่อมา พวกเขาจะเข้าใจและยอมรับผมในฐานะ 'คนที่ทำงานหนัก' ผมคิดว่ามันจะมีข้อสรุป ดังนั้นผมพยายามที่จะไม่แคร์เกี่ยวกับมัน มันค่อนข้างที่จะผิดหวังนะ แม้ว่า ผมจะเหมือนกับคนที่ไม่จริงจัง ตอนอยู่ในทีวี แต่ว่า ผมก็ทำงานหนักนะครับ เมื่อทุกคนกำลังนอนหลับ ผมเขียนเพลง ผมค่อนข้างจะนอนน้อย ผมหมายถึงทำไมหล่ะ? ทำไมเขาถึงเกลียดสิ่งที่ผมทำมากนัก ทั้งๆที่ผมยังเด็กและยังเจ็บปวดต่อไปเรื่อยๆ

Q: คุณพยายามอะไรบ้าง?
GD: ถ้าผมอยาจะทำอะไร ผมก็จะพยายามทำ แต่เมื่อผมไม่อยากทำ ผมก็จะไม่ทำ 10ปีที่ผ่านมาและตอนนี้ ผมยังคงสนใจเรื่องดนตรีแล้วเสื้อผ้า ตั้งแต่สมัยผมอยู่มัธยามแล้ว ผมเคยซื้อ และ ทำของจ่างๆตั้งแต่ผมยังไม่มีอะไรทำ ผู้คนมากมายมองผมในฐานะบิ๊กแบง แต่เมื่อตอนผมไม่ได้อยู่ในทีวี ผมมีเวลามากมาย บางทีผมจะออกไปพบปะเพื่อนฝูง ในบ้านมันไม่ค่อยมีอะไรจะทำจริงๆ เมื่อผมทำเพลง มีเพลงมากมายที่ผมทำ แต่จะมีแค่ไม่กี่เพลงที่จะเข้ามาอยู่ในอัลบั้ม ดังนั้น ผมจะไม่วางแผนผลสำเร็จเท่าไรนัก ในความคิดของผม ผมควรปล่อยให้ผู้ฟังรับรู้แต่สิ่งที่ดีเองครับ

Q: อะไีรที่ทำให้คุณเพิ่งคิดเกี่ยวกับการทำดนตรีที่แตกต่างจากไอด้อลคนอื่นๆ?
GD: ผมชอบที่จะเต้น แต่ในทีวี คนส่วนมากที่เต้นคือนักร้อง ผมเลยคิดว่า คำว่านักร้องมันไม่เท่ห์เลย แต่การแร็พที่พวกเขาพูดกันเร็วๆนั้นน่าทึ่งกว่า ตอนผมอยู่เกรด4 พ่อของเพื่อนผมได้เป็น music head ของ MBC ที่บ้านของเขามี CD , LP และเทปเต็มไปหมด ตั้งแต่ันั้นผมก็ไปบ้านเขาบ่อยๆเพื่อฟังเพลง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงป็อป จากนั้น ผมก็ช็อกตั้งแต่ได้ยินเพลงของ Wu-Tang Clan ซึ่งมันแตกต่างจากเพลงอื่นๆที่ผมเคยได้ยินมามาก ตั้งแต่นั้น ผมก็เขียนเพลงเอง ร้องเอง อัดเสียงเอง และไปแสดงที่แคมป์ที่โรงเรียนอีกด้วย จากนั้นข่าวก็ได้ยินไปถึง YG ทำให้ YG มาคัดตัวผม ผมก็เข้ามาโดยวิธีนี้ จากการที่ผมทำในสิ่งที่ผมรัก

Q: แล้วคุณไม่คิดบ้างหรอว่าคุณมีพรสวรรค์?
GD: ผมก็คิดนะ เพราะ ถ้าผมไม่มีพรสวรรค์ ผมก็คงทำสิ่งพวกนั้นไม่ได้หรอก แต่ผมก็ใช้พรแสวงมากอยู่ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าผมมีความสามารถมากกว่าคนอื่น

Q: คุณมีคนที่คุณนับถือมั้ย คนที่มีความสามารถที่คุณคิดว่า คุณทำไม่ได้อย่างเขาหรอกหน่ะ?
GD: ไม่มีครับ ผมจะไม่พูดว่า ผมประหลาดใจหรืออะไรก็ตาม แต่ผมคิดว่าในตอนสุดท้าย พวกเขาก็แค่คนๆหนึ่ง และ ผมคิดว่าผมสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ ผมมี DJ ซึ่งเราเป็นเพื่อนเมื่อตอนเราไปญี่ปุ่น ซึงเพื่อนของเขาอีกทีเป็นเพื่อนกับ Kanye West และ Pharrel Williams ถ้าเราลองไปแฮงค์เอาท์กับเค้า ก็อาจจะเป็นเพื่อนกับพวกเขาได้ ผมคิดว่าคุณสามารถเป็นเพื่อนกับใครก็ได้ที่คุณอยากจะเป็น เหมือนกับที่คุณชอบเสื้อผ้า และ เพลง ผมไม่มีคนที่ผมอยากจะเป็นแบบเค้า แต่ก็มีกลุ่มคนที่ผมคิดว่า พวกเขาเจ๋ง ส่วนตัว ผมคิดว่า คนที่สนุึกสนาน และ ทำงานอย่างหนักเป็นคนที่ดีที่สุด

Q: KAWS เป็นคนที่คุณคิดว่าเขาเท่ห์? คุณบอกว่าคุณอยากเป็นเพื่อนกับเขา
GD: ทำ Louis Vuitton หรือแม้กระทั่งวงอินดี้ เขาก็วางแผนที่จะทำมันออกมาในแบบของเรา ผมคิดว่าการควบคุมของเขาดีมาก ผมอยากจะทำงนกับเขา เพราะ ผมคิดว่า เขาอาจจะทำงานกับผมโดยปราศจากอคติก็เป็นได้

Q: อะไรคือมาตรฐานสำหรับคนที่อยากจะเป็นเพื่อนของคุณ โดยไม่นับเรื่องแฟชั่น และเพลง?
GD: เป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกทีครับ

Q: เหมือนกับเพื่อนแนะนำเพื่อน อย่างนั้นหรอ?
GD: ผมไม่ค่อยชอบพบผู้คนใหม่ๆ ผมไปที่ในที่ที่ผมเคยไป ผมหวังว่าพวกเขาจะเป็นคนที่ใจกว้าง ผมไม่ชอบคนที่เสแสร้งและตัวตนที่แท้จริงดูแตกต่างออกไป ผมหวังว่าพวกเขาจะพูดทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนหน้าของผม - ดีหรือหยาบคาย เพื่อนของผมก็เป็นแบบนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว ผมไม่สำคัญอะไรเลย พวกเขาแวะมาหานิดหน่อยระหว่างถ่ายทำเท่านั้น

Q: คนเหล่านั้นใส่ชุดสูทอยู่รึปล่าว , เพื่อน?
GD: ใช่แล้วเพื่อน ฮ่าๆๆ เมื่อเพื่อนของผมเห็นผม พวกเขาสาบานได้ว่าเห็นผมในแบบที่เป็น ควอนจิยง ไม่ใช่ จีดราก้อน เมื่อผู้คนมองผมในฐานะคนดัง ผมจะไม่พยายามโน้มเอียงไปหาพวกเขา

Q: เพลงอะไรที่คุณชอบฟังตอนนี้?
GD: Yellow Butterfly ของ Kim Heunggook ตั้งแต่ผมใส่กางเกางสีเหลือง ผมก็อยากฟังเพลงนั้น หรือไม่ก็เพลง Raggae Party ของ Kim Heunggook ครับ

Q: คุณมีรอยสักที่แขนและหลัง มันแปลว่าอะไร?
GD: ในแขนขวาสักว่า Dolce Vita และ แขนซ้ายเขียนว่า Moderato แปลว่า มีชีวิตอย่างมีความสุขและ อยู่อย่างไร้กังวล ด้านหลังสักว่า too fast to live , too young to die เป็นคำของ Sid Vicious หมายถึง 'too corrupted to live but too young to die' มันเหมือนกับเรื่องราวชีวิตของผม ผมมักจะมีรอบสักก่อนที่ผมจะประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ผมอยากจะสักสำหรับอัลบั้มนี้สักที่ แต่ผมยังไม่รู้ว่าจะสักที่ไหนดี

Q: แล้วคิดไว้หรือยัง ว่าจะสักคำว่าอะไร?
GD: 'Head and thinking cold, heart hot' วลีนี้คือการเคลื่อนไหวของผม ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก

Q: โอ้ งั้นคุณเคยใช้ eye cream รึยัง?
GD: ไม่ , ยังครับ



- - - - - - - - - -




เมื่อ คุณเห็นสไตล์ของไอด้อลกรุ๊ป ที่ใส่เสื้อกล้าม , แจ็คเกต และ เสื้อกันฝนแบบทหาร ทั้งหมดในชุดเดียวกัน แม้ว่ามันอาจจะดูดีแต่มันก็ำไม่ทำให้คุณอยากจะใส่ของพวกนั้น บิ๊กแบงผู้ซึ่งใส่เสื้อผ้าเหล่านั้น แล้วทำให้เราอยากใส่ตาม เราก็ควรจะทำตามกฏของสไตล์ลิส 2 ข้อ คือ สไตล์ที่คุณจะใส่ต้องใส่ได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน และอีกข้อคือ เสื้อผ้าควนจะแตกต่างจากเสื้อของบิ๊กแบง เพื่อให้ความสำคัญกับความพิเศษของแต่ละคน อ้างจาก Jieun สไตล์ลิสของบิ๊กแบง จริงแล้ว เธอพยายามทำ 70% ของเสื้อทั้งหมดให้ไม่เหมือนเด็กผู้ชายใส่เสื้อผ้าของพ่ออยู่ มันอาจจะเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนรู้จัก Hhenomenon , Swagger และ Henrik Vibskov เป็นชือแบรนด์เสื้อผ้า ไม่ใช่ชื่อบริษัท



- - - - - - - - - -




Q: ชุดอะไรที่คุณใส่แล้วรู้สึกแย่สุดตอนแสดง?
GD: ชุดที่ใส่ตอน Last Farewell ครับ พวกเขาคงจะสับสนกับผมน่าดู

Q: ไอเทม ที่เป็นตัวตของบิ๊กแบง?
GD: สนีคเกอร์(รองเท้าผ้าใบหนัง) และ กางเกงโปร่งๆ ผมไม่คิดว่ากางเกงแบบนี้จะฮิตนักหน่ะครับ

Q: แต่ละคนในบิ๊กแบงเหมาะสมกับเสื้อผ้าแบบไหน
GD: - จียง กับ skinny jeans
- แทยัง กับ หมวกแก๊ปและเสื้อสีขาว
- แดซองกับ rider jackets
- ท็อป กับ suit jackets
- ซึงรี กับ power shoulder

Q: สมาชิกที่ทำเสื้อผ้าสกปรกที่สุด
GD: ท็อปครับ



Original article from NYLON magazine.
Magazine scans from bbflow.
Scan by 한숨 @ bbflow, retouching by 보니 @ bbflow
Eng trans by Beau @ bbvipz
trans to Thai by veekung and PRAEPERRY @ GDTHailand



1 ความคิดเห็น: